การกลับมาของคอนเซปต์ของดำ ‘The Black Series’ (เดอะ แบล็ก ซีรีส์) จากตระกูล Prospex (โพรสเป็กซ์) แห่ง Seiko (ไซโก) ใน ค.ศ. 2022 นี้เป็นการสร้างสรรค์ขึ้นด้วยแนวคิดที่ต่างไปจากหนก่อน โดยเปลี่ยนไอเดียการนำเสนอจากการดำน้ำในยามค่ำคืน มาเป็นไอเดียจากประสบการณ์ในการเดินป่าไปตั้งแคมป์ค้างคืนในบรรยากาศเงียบสงบ เพื่อดื่มด่ำกับแสงธรรมชาติบนท้องฟ้าในคืนเดือนมืด ซึ่งทำให้มองเห็นดวงดาวพร่างพราวเต็มท้องฟ้า กระทั่งอาจเห็นแสงสีเขียวเรืองรองสาดส่องมากระทบเงาของต้นไม้ได้ในบางโอกาส นี่คือ Seiko Prospex The Black Series ‘Night Vision’ Limited Edition (ไซโก โพรสเป็กซ์ เดอะ แบล็ก ซีรีส์ ไนท์ วิชั่น ลิมิเต็ด เอดิชั่น) ซีรีส์ของดำแห่งปี 2022
ดูบทความ
ดูบทความSEIKO PROSPEX THE BLACK SERIES ‘NIGHT VISION’ LIMITED EDITION – 3 รุ่น 3 แบบจากซีรีส์ของดำ
SEIKO PROSPEX THE BLACK SERIES ‘NIGHT VISION’ LIMITED EDITION – 3 รุ่น 3 แบบจากซีรีส์ของดำ
SEIKO PROSPEX THE BLACK SERIES ‘NIGHT VISION’ LIMITED EDITION – 3 รุ่น 3 แบบจากซีรีส์ของดำ
Seiko Prospex The Black Series ‘Night Vision’ Limited Edition นำเสนอด้วยนาฬิกา 3 รุ่น 3 แบบ ซึ่งเหมือนกันตรงที่ใช้ตัวเรือนสเตนเลสสตีลผิวด้าน เคลือบเป็นสีดำด้วยเทคนิค ‘Hard Coating’ (ฮาร์ด โคติง) ร่วมด้วยหน้าปัดสีดำผิวด้าน และเข็มสีดำ พร้อมหลักชั่วโมงและเข็มที่เคลือบด้วยสารเรืองแสงชนิด ‘Highly Bright Green Lumibrite’ (ไฮลี ไบรท์ กรีน ลูมิไบรท์) ซึ่งเป็นสารสีเขียวที่จะเปล่งแสงสีเขียวอย่างเจิดจ้าในความมืดมิดได้ยาวนานและชัดเจนกว่าปกติ เพื่อสะท้อนถึงความสวยงามของแสงจากท้องฟ้าในคืนเดือนมืดที่เกิดขึ้นได้ในบางโอกาส โดยมีการแต่งเข็ม 1 ใน 3 ด้วยสีเงินเพื่อสร้างความแตกต่าง และมีจานวันที่เป็นสีดำเลขขาว ส่วนกระจกหน้าปัดเป็นแซพไฟร์คริสตัล มาพร้อมขอบตัวเรือนชนิดหมุนได้พร้อมแผ่นวงแหวนสีดำประดับสเกลสีขาวสลับสีเทา ส่วนการกันน้ำสามารถกระทำได้ถึง 200 เมตร (ยกเว้น SRPH99K1 ที่กันได้ถึงระดับ 20 บาร์ ซึ่งเทียบเท่ากับ 200 เมตร แต่ไม่ใช่เป็น 200 เมตร ตามคุณสมบัตินาฬิกาดำน้ำแท้ๆ)
3 รุ่น 3 แบบของซีรีส์นี้ประกอบด้วย SNE587P1 นาฬิกา Solar Diver’s (โซลาร์ ไดเวอร์ส) ในตัวเรือนสไตล์ดำน้ำร่วมสมัยขนาด 38.5 มิลลิเมตร พร้อมสายสเตนเลสสตีลเคลือบดำด้วยเทคนิค ‘Hard Coating’ ทำงานด้วยเครื่องควอตซ์ 3 เข็ม พร้อมวันที่ ขับเคลื่อนด้วยพลังแสง Cal.V147 ที่สำรองพลังงานได้ถึง 6 เดือน ผลิตจำนวนจำกัด 6,000 เรือน และมีจำหน่ายในประเทศไทยเพียง 130 เรือน ในราคา 24,000 บาท
ต่อด้วย SRPH97K1 ในตัวเรือนตระกูลซามูไร ขนาด 43.8 มิลลิเมตร ที่เด่นด้วยการมีเลนส์ขยายวันที่ติดตั้งมาให้บนกระจก จับคู่กับสายซิลิโคนสีดำลายร่องแนวขวาง ขับเคลื่อนด้วยกลไก ‘In-house’ (อินเฮาส์) อัตโนมัติ 3 เข็ม พร้อมวันที่ Cal.4R35 สำรองพลังงานได้ 41 ชั่วโมง ผลิตจำนวนจำกัด 8,000 เรือน โดยมีจำหน่ายในไทยแค่ 360 เรือน สนนราคาถูกตั้งไว้ที่ 25,900 บาท
และอีกรุ่นหนึ่งก็คือ SRPH99K1 ในร่างตัวเรือนทรงถังเบียร์อารมณ์เรโทรขนาด 42.4 มิลลิเมตร ซึ่งมีสเกลบนวงขอบตัวเรือนต่างไปจาก 2 รุ่น เพราะรุ่นนี้จะเป็นสเกลทิศและหมุนขอบตัวเรือนได้ 2 ทิศทาง มิใช่สเกลนาทีสำหรับดำน้ำบนขอบตัวเรือนชนิดหมุนได้ทิศทางเดียว และวางหน้าต่างบอกวันที่ไว้ ณ ตำแหน่ง 4-5 นาฬิกา ส่วนสายที่จับคู่มาเป็นวัสดุโพลีเอสเตอร์สีดำเย็บด้ายสีเทา ขับเคลื่อนด้วยกลไก ‘In-house’ อัตโนมัติ 3 เข็ม พร้อมวันที่ Cal.4R35 เช่นเดียวกับ SRPH97K1 จำนวนการผลิตของรุ่นนี้อยู่ที่ 7,000 เรือน โดยจะมีจำหน่ายในไทยเพียง 130 เรือน ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 22,000 บาท
Seiko Prospex The Black Series ‘Night Vision’ Limited Edition เริ่มจำหน่ายในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายนเป็นต้นไป ซึ่งเชื่อว่าด้วยจำนวน 3 รุ่นที่ Seiko ประเทศไทยได้โควตามาจำหน่ายรวมกัน 3 รุ่น แค่ 620 เรือน ก็น่าจะจำหน่ายหมดในเวลาอันสั้น ผู้ใดสนใจก็คงต้องรีบจับจองกันโดยเร็วก่อนจะหมดโอกาสได้ครอบครอง
09 มิถุนายน 2565
ผู้ชม 597 ครั้ง